Makalong-Jewelry จะพาไปรู้จัก Rapaport Diamond Report หรือ The Rapaport Diamond Report price list หรือที่ส่วนใหญ่เรียกสั้นๆว่า “Rapaport” หรือ “Rap List” ซึ่งเป็นใบราคากลางของ “เพชร” ซึ่งจะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก คือ ไม่ว่าจะร้านขายเพชรที่ไหนบนโลกใบนี้ก็จะยึดไว้คำนวณราคาเพชรตามราคากลางของ Rapaport เป็นเกณฑ์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะครับว่า ซื้อร้านขายเพชรจะมโนตั้งราคากันเอง
Rapaport จะออกประกาศอัพเดทในทุกวันศุกร์ในสัปดาห์ ซึ่งอาจมีการปรับราคา หรือไม่ปรับเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับแนวโน้มและสภาวะความต้องการเพชรของตลาดโลก ณ ช่วงเวลานั้นๆ แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มคงที่ หรือ ปรับขึ้นเท่านั้น และในการปรับขึ้นราคาจะปรับขึ้นเป็นบางขนาด บางสี ระดับความสะอาด ไม่ได้ถูกปรับขึ้นพร้อมๆ กันทั้งหมด ไม่ต้องตกใจนะครับ
ในตาราง Rapaport บอกอะไรบ้าง
ใบราคา “Rapaport” แบ่งได้ 2 ชนิด คือ ใบราคาสำหรับเพชรทรงกลม “Round Brilliant” จะใช้ใบราคาของเพชร “Rounds” มีทั้งหมด 18 ตาราง และราคาสำหรับเพชรรูปทรงแฟนซี Fancy Cut จะใช้ใบราคาของเพชร “Pear Shape” มีทั้งหมด 14 ตาราง 14 ไซส์ จำไว้…เพชรทรงกลมและทรงแฟนซีจะใช้ใบตารางคนละใบกันนะครับ

Rapaport มีลักษณะเป็นตารางแบ่งแยกตามช่วงน้ำหนักของเพชร โดยแต่ละช่วงน้ำหนัก (แถบสีดำทึบ)
– แนวนอน (แถบสีขาว) จะบอกถึงค่าความสะอาด(ตำหนิ)ของเพชร ไล่ระดับความสะอาดสูงสุด คือ IF จากฝั่งซ้าย ไปยังฝั่งขวาซึ่งจะค่อยๆ ไล่ระดับความสะอาดไปถึงเกรดต่ำสุด คือ I3
– แนวตั้ง (แถบสีดำ) จะบอกค่าสีของเพชร ไล่ระดับจากบนลงล่าง คือ D – M
ราคาที่ระบุในตารางเป็นแบบถูกย่อเอาไว้ ถ้าต้องการทราบราคาจริงๆ เราต้องคูณด้วย 100 (หรือเติม 00) ก่อนเสมอ (ตย. ถ้าในใบราคาเขียนไว้ 40 ต้องนำมาคูณด้วย 100 ก่อน (หรือเติม 00) จะได้ราคาจริงๆ คือ 4,000 USD. ครับ
และราคาที่ระบุในตาราง Rapaport จะเป็นราคา US Dollar เสมอ ก่อนนำมาใช้งานทุกครั้ง จะต้อง นำมาคำนวณจากเงินดอลล่าร์กลับมาเป็นเงินบาทไทย โดยดูจากค่าเงินในวันนั้นๆ
ตัวเลขในตารางที่เป็นตัวหนา (bold) แสดงว่า มีการเปลี่ยนแปลงราคาจากครั้งก่อนๆ
เจ้า Rapaport ไม่สามารถหามาเชยชมได้ตามเว็บไซด์ทั่วไปนะครับ จะต้องสมัครสมาชิกในราคาปีละ 250 เหรียญสหรัฐ เพื่อ Login เข้าไปชมที่ www.diamonds.net ทางที่ดีถ้าเรามีร้านเพชรที่พอคุ้นเคยและไว้วางใจได้ ก็ลองขอข้อมูล Rapaport เอาไว้เวลาที่เราอยากเลือกซื้อเพชรนะครับ
วิธีดูราคาในตาราง Rapaport
เรามาลองตั้งโจทย์ง่ายๆ เพื่อให้อ่านตามแล้วเข้าใจ ถ้าอยากหาราคา เพชรกลม / ขนาด 39 กะรัต / ระดับสี H (น้ำ96) / ความสะอาด VS2 / ค่าเงินบาท 32
1. ก่อนดูราคาในตาราง เราต้องดูวันที่ก่อนว่า ว่า Rapaport ใช่ใบที่อัพเดทล่าสุดหรือเปล่า
2. และต้องดูว่าใช่ใบตาราง Round ที่จะดูราคาเพชรทรงกลมหรือเปล่าด้วยน๊า
3. ดูหัวตารางที่แบ่งช่วงน้ำหนักเพชร (แถบสีดำทึบ) หาน้ำหนักเพชร 0.30-0.39 CT (จากรูปจะเป็นตารางด้านล่างทางซ้ายนะครับ
4. จากนั้นให้เลือกดูระดับสี ซึ่งดูจากแนวตั้งในช่วงน้ำหนักนั้น แล้วเลือกดูตัวอักษรตามระดับสีของเพชร (ในที่นี่ให้ดู อักษร H คือสีที่เป็นโจทย์ของเรา)
5. มาดูที่แนวนอน (แถบสีขาว) ดูค่าความสะอาดของเพชรที่เราต้องการ (ในที่นี้เราเลือก VS2 นะครับ)
6. ให้มองหาตัวเลขที่เป็นจุดตัด ของช่องระดับสี (แนวตั้ง) ตัวอักษรทางด้านซ้าย และ ช่องค่าความสะอาดตัวหนังสือ (แนวนอน) (ตามโจทย์ ้H และ VS2 จุดที่ตัดกัน จะได้ตัวเลข 19
7. อย่าลืมนะครับ ตัวเลขนี้ยังไม่ใช่เรทราคาจริง ต้องนำตัวเลขที่ได้มาคูณด้วย 100 (หรือเติม 00)ก็จะได้ 19×100 = 1,900 หน่วยราคาเป็น US ดอลล่าร์ นะครับ
8. สุดท้ายแล้ว นำราคามาคูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ) ก็จะได้ราคาตลาดกลางของเพชรเม็ดนี้ เป็นราคาต่อบาทไทยแล้วค่ะ 1,900×32 = 60,800 บาทต่อกะรัตครับ
9. นี่ยังไม่ใช่ราคาขายหน้าร้านจริงๆ นะครับ อย่าเพิ่งตกใจ เพราะแต่ละร้านจะมี Discount Rate หรือราคาส่วนลด เพราะเวลาซื้อขายจริงๆ จะมีการคัดเกรดเพชรด้วยคุณภาพของ Cut / Polish / Symmetry / Fluorescence / Inclusions (ตำหนิ) เนื่องจากเพชรแต่ละเม็ด แม้จะมีน้ำหนัก ความสะอาดและสีเดียวกัน ก็อาจจะมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ราคาต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นความหายากของสเปคเพชรเม็ดนั้นๆ รายละเอียดของตัวเพชร โปรโมชั่นของแต่ละร้าน และอีกมากมายหลายสิ่งเลยครับ

ในการซื้อเพชร นอกจากหลัก 4C ในการเลือกซื้อเพชร การอ่านใบเซอร์ที่จะต้องศึกษาไว้แล้ว การรู้วิธีอ่านราคากลางจาก Rapaport เอาไว้ ก็ทำให้เราซื้อเพชรได้อย่างมืออาชีพ และการมีข้อมูลต่างๆ รอบด้านของเพชรเอาไว้ ก็ทำให้เรามีฐานข้อมูงที่มั่นใจได้ว่า การซื้อเพชรของเราจะได้เพชรแท้ และคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนครับ