แม้จะระวังแค่ไหน บางครั้ง แหวนเพชร ก็อาจถูกแรงดึงดูดของโลก ทำให้หลุดจากมือหล่นตุ๊บลงบนพื้นได้เหมือนกัน แล้วแบบนี้ “เพชร” จะแตกมั้ยล่ะครับเนี้ย??
จริงอยู่ครับ… ที่ “เพชร” เป็นวัตถุที่แข็งแรงที่สุดในโลกนั้น ตามทฤษฎีสเกลของโมส์ ที่บอกว่า เพชรมีระดับความแข็งที่ระดับ 10 แต่ไม่ได้หมายความว่า “เพชร” จะแตกไม่ได้นะครับ แต่น้อยคนที่จะทราบละเอียดลึกซึ้งถึงความแข็งแรงตามหลักเกณฑ์สเกลของโมส์ วิธีวัดค่าความแข็งตามหลักเกณฑ์สเกลของโมส์ คือ หากเรามีของอยู่ 2 ชิ้น แล้วเกิดสงสัยว่า ชิ้นไหนมีความแข็งมากกว่ากัน ก็สามารถทดสอบได้โดยการนำของทั้งสองชิ้นมาขูดขีดกัน หากของชิ้นที่ 1 สามารถทำให้ของชิ้นที่ 2 เป็นรอยได้ แปลว่า ของชิ้นที่ 1 มีความแข็งแรงมากกว่า ค่าความแข็งนี้ เป็นเพียงความคงทนต่อการกระทบกับของชนิดอื่นเท่านั้น
ซึ่งความแข็งของวัตถุในระบบสเกลของโมส์จะแทนค่าด้วยตัวเลข เริ่มต้นที่ 1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีความแข็งน้อยที่สุดไปจนกระทั่งสูงที่สุด 10 คือมีความแข็งมากที่สุด แล้วก็มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ได้คะแนนเต็ม 10 ซึ่งก็คือ “เพชร” นั่นเอง ก็คือ ไม่มีวัตถุใดในโลกนี้ที่จะมีความสามารถทำให้เพชรเป็นรอยขีดข่วนได้นอกจาก “เพชร” เอง
แต่อย่างไร เพชร ที่ว่าแข็ง ก็ยังแตกร้าวได้อยู่ดี เพราะความแข็งที่เราพูดถึง เป็นแค่ 1 ใน 3 องค์ประกอบความแข็งแรงทนทานเท่านั้น ซึ่งความแข็งแรงทนทานต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการ คือ
เป็นความสามารถในการทนทานต่อการขูดขีดตามหลักการของสเกลโมส์ มีคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 10 และต่ำที่สุดอยู่ที่ 1 ซึ่งระยะห่างของแต่ละตัวเลขก็จะไม่เท่ากันเหมือนขั้นบันได ความแข็งของเพชรซึ่งอยู่ในระดับ 10 นั้นมีมากกว่าทับทิม ไพลินซึ่งอยู่ในระดับ 9 อยู่ 4 เท่า
2. ความเหนียว (Toughness)
คือความแข็งในเนื้อของวัตถุ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ความอึดทนทานต่อการกระทบกระแทก หรือ ก็คือ แตกง่ายแค่ไหนนั่นเอง ขอยกตัวอย่าง แก้ว กับ เหล็ก หากเราโยนแท่งแก้วและแท่งเหล็กลงบนพื้นพร้อมกัน แก้วจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เหล็กจะยังคงสบายดี แต่หากนำแก้วมาขูดเหล็ก เหล็กจะเป็นรอยขีดทันที นั่นหมายความว่าแก้วมี ความแข็ง (Hardness) ที่สูงกว่า แต่เหล็กมี ความเหนียว (Toughness) ที่สูงกว่าแก้วนั่นเอง ความเหนียวความทนทานไม่มีคะแนนเป็นตัวเลขเหมือนค่าความแข็ง แต่จะมีการจัดเป็นระดับได้แก่ Excellent , Good , Fair , และ Poor
3. ความคงทนถาวร (Stability) คือ ความอยู่ยงคงกระพัน วัดด้วยความทนทานต่อความเปลี่ยนแปลงในความดันสูงอุณภูมิสูงและสารเคมีต่างๆ แค่ไหน ซึ่ง “เพชร” ก็จะมีค่าความคงทนถาวรสูงเพราะแม้อุณภูมิสูงปรี๊ดๆ ก็ไม่อาจทำให้เพชรกระเทือน
รู้แบบนี้ ถ้าบอกทำไมถึงบอกว่า “เพชร” ตกแตกได้ ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถ้าเราพูดถึง ความแข็ง (Hardness) เมื่อไหร่ น้องเพชร ก็สามารถคว้า 10 เหรียญทองไปครอบครองแบบไร้คู่แข่ง แต่ถ้าเอ่ยถึง ความเหนียว (Toughness) ความทนทานของเพชรก็จะลดน้อยลง เพราะเพชรเป็นผลึกตามธรรมชาติ ธรรมชาติของเพชรจะมีรอยแยกอยู่ภายในอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเป็นขนาดเล็กและมองไม่เห็น แต่ยิ่งเพชรที่มีตำหนิรอยแยกด้านในจำนวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะตกแล้วแตกได้มากขึ้นเท่านั้นครับ
และถ้าเกิดแหวนเพชรในมือหลุดตกพื้นไปแล้ว อันดับแรกทำใจดีๆ ไว้นะครับ ลองหยิบขึ้นมาตรวจดูก่อนว่า ตัวเพชร หรือ ตัวเรือน ที่ตกไปกระแทกพื้น ตัวเพชร เราเน้นดูที่มุมเพชร อาจบิ่น แตกได้ เพราะถือเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด และได้รับผลจากการกระทบไวที่สุด จากนั้นดูที่ตัวเรือนว่า มีจุดใดที่เสียหาย บุบ จากการกระแทกพื้นมั้ย ถ้าจ้องยังไงก็ยังไม่เห็นบาดแผลภายนอก แต่ไม่สบายใจก็นำไปรับบริการหลังการขายจากร้านเพชรที่เราซื้อ อย่างที่ MAKALONG-JEWELRY เรามีบริการหลังการขาย ที่พร้อมตรวจเช็คเพชร ทำความสะอาด รวมถึงซ่อมแซมเพชรฟรี!!… ตลอดอายุการใช้งานครับ เพื่อตรวจเช็คเพชรให้ละเอียด ว่าเกิดตำหนิภายในที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าหรือไม่ ถ้าเป็นที่ตัวเรือน หนามเตยชำรุดก็สามารถซ่อมได้ทันที แต่ถ้าเป็นตัวเพชรบิ่น แตกเสียหาย ก็คงต้องเปลี่ยนใหม่ดีกว่า ก่อนจะหยิบมาใส่ครั้งต่อไปอย่างสบายใจเพชรจะไม่หลุดเสียหายอีก